สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา 2563

วันที่ 14 ตุลาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันสมทบ ประจำปีการศึกษา 2563 ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2563 มีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 4,195 ราย แบ่งออกเป็น ช่วงเช้า จำนวน 2,096 ราย ได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยการจัดการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด วิทยาลัยศาสนศึกษา วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า และโครงการร่วมผลิตฯ กระทรวงสาธารณสุข

ช่วงบ่าย จำนวน 2,099 ราย ได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะพยาบาลศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ วิทยาเขตกาญจนบุรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ และวิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ

โอกาสนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 5 ราย รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 6 ราย เกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ จำนวน 6 ราย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ จำนวน 5 ราย ผู้ได้รับทุนภูมิพล จำนวน 1 ราย

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ปีที่ 6 “ในหลวงผู้ทรงสถิตในดวงใจ” เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันที่ 13 ตุลาคม 2565 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ปีที่ 6 ในหลวงผู้ทรงสถิตในดวงใจ” เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศล โดยมี ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ก้องเขต เหรียญสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและประชาชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 50 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์และสดับปกรณ์ พิธีถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นกล่าวสดุดีฯ และถวายความอาลัย จากนั้น มีการปาฐกถาเทิดพระเกียรติ หัวข้อ “เศรษฐกิจพอเพียง” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ณ โรงพยาบาลศิริราช

พิธีทำบุญตักบาตร บำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีถวายราชสดุดี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บริหารส่วนงาน และบุคลากรจากส่วนงานต่าง ๆ เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตร บำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีถวายราชสดุดี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สำหรับกิจกรรมในพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ 20 รูป จากวัดสิรินธรเทพรัตนาราม ในพระราชูปถัมภ์ฯ วัดลานตากฟ้า และน้ำทองสิกขาลัย วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์ โดยมีบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล นำข้าวสารอาหารแห้ง มาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตร จากนั้น ­ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” และเพลง “เดินตามรอยเท้าพ่อ” โดยผู้ร่วมพิธีพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดโทนสีเหลือง ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี 2565 ณ ศูนย์การเรียนรู้มหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

วันที่ 24 กันยายน 2565 มหาวิทยาลัยมหิดลจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี 2565 โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บริหารส่วนงาน บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ในโอกาสนี้ มีหน่วยงานภายนอกบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะฯ ณ ลานพระราชานุสาวรีย์ฯ ศูนย์การเรียนรู้มหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

จากนั้น เป็นพิธีเปิดนิทรรศการ “ครุยปริญญา ศักดิ์และสิทธิ์แห่งวิทยฐานะมหิดล” ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดขึ้นเนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี 2565 โดยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชุดครุยปริญญาของมหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“วันมหิดล” เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี ด้วยพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงวางรากฐานแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุขของไทยให้เจริญก้าวหน้า บุคลากรทางการแพทย์ การสาธารณสุข จึงได้ถือให้วันนี้เป็นวัน “มหิดล” เพื่อถวายราชสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ให้เป็น “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขไทย”

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเสวนาสภามหาวิทยาลัยมหิดล MU : The Way Forward 2022

วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนาสภามหาวิทยาลัยมหิดล MU : The Way Forward 2022 โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยทีมรองอธิการบดีทุกฝ่าย ศาสตราจารย์คลินิกพิเศษ นายแพทย์เสรี ตู้จินดา อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ ศาสตราจารย์ ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ศาสตราจารย์ ดร.สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล อาจารย์ ดร.ธิติคม พัวพันสวัสดิ์ ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บริหารส่วนงานมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมการเสวนาและรับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน และ รองศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาจารย์ ดร.ระพี บุญเปลื้อง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ ศูนย์ประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

จากนั้น เป็นการนำเสนอของ กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยผู้บริหารส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน รองศาสตราจารย์ ภก.สุรกิจ นาฑีสุวรรณ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. นพ. ทพ.ศิริชัย เกียรติถาวรเจริญ คณบดีคณะทันแพทยศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. กภ.จารุกูล ตรีไตรลักษะ คณบดีคณะกายภาพบำบัด รองศาสตราจารย์ ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. สัตวแพทย์หญิงวลาสินี ศักดิ์คำดวง คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์นรัตถพล เจริญพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภูดิท เตชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน รองศาสตราจารย์ นายแพทย์บวรฤทธิ์ จักรไพวงศ์ คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา รองศาสตราจารย์ ดร.สิริพงษ์ ฐิตะมาดี ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา

ในภาคบ่ายเป็นการนำเสนอของ กลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยผู้บริหารส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจุฬธิดา โฉมฉาย คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ อาจารย์ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ รองศาสตราจารย์ ดร.อารี จำปากลาย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.มรกต ไมยเออร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวคนธ์ รัตนวิจิตราศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อภิวิชญ์ เลี้ยงอิสสระ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ ดร.วัชรฤทัย บุญธินันท์ ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ร.ท. ทพ.ชัชชัย คุณาวิศรุต รักษาการแทนคณบดีวิทยาลัยราชสุดา อาจารย์ ดร.พิบูลย์ ชุมพลไพศาล คณบดีวิทยาลัยศาสนศึกษา

การนำเสนอของ กลุ่มวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยผู้บริหารส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.พลังพล คงเสรี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดร.พัฒนศักดิ์ มงคลวัฒน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รองศาสตราจารย์ ดร.สุระ พัฒนเกียรติ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ชัยเลิศ พิชิตพรชัย ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัชวีร์ ลีละวัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศและวิทยาเขตกาญจนบุรี รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐนียา โตรักษา ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ นายแพทย์สุรพร ลอยหา รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ นายสัตวแพทย์สุรชัย จันทร์ทิพย์ สพ.บ. ผู้อำนวยการศูนย์สัตว์ทดลองแห่งชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพพล เผ่าสวัสดิ์ ผู้อำนวยการหอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล และรองศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม

การเสวนาครั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้นเพื่อระดมความคิดจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ จากการเยี่ยมชมและรับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (MU Council Visit) ประจำปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้บริหารส่วนงานมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อหาแนวทางบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกัน ทั้งในด้านวิจัย วิชาการ และการบริการวิชาการสู่สังคม เพื่อผลักดันมหาวิทยาลัยมหิดลให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ วันที่ ๒ เรื่อง “การเรียนรู้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs”

วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเรียนรู้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs” ซึ่งการจัดงานในวันนี้เป็นวันที่ ๒ ของการอบรมดังกล่าว โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายใน หัวข้อ “Mahidol University & Sustainable Development Goals” กล่าวว่า “SDGs เป็นเป้าหมายระดับโลกขององค์การสหประชาชาติที่มี ๑๙๓ ประเทศ มุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ภายในปี ค.ศ. 2030 และพนักงานมหาวิทยาลัยมหิดลทุกท่าน เป็นผู้ที่มีส่วนร่วม ในการสนับสนุนการบรรลุ SDGs ในระดับประเทศ และระดับโลกต่อไป” ทั้งนี้ มีบุคลากรสายสนับสนุนที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ของแต่ละส่วนงานเข้าร่วมการอบรม จำนวน 36 ส่วนงาน รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑๒๐ ท่าน ณ ห้องประชุม ๒๑๘ ชั้น ๒ อาคารสิริวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๕

จากนั้น เป็นการบรรยายในหัวข้อ “งานวิจัยจะช่วยให้มนุษย์และธรรมชาติดํารงอยู่อย่างสมดุลได้หรือไม่” โดย คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้กล่าวถึง “The Global Goals ในเรื่อง ความขจัดความยากจน ความหิวโหย การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การศึกษาที่มีคุณภาพ ความเท่าเทียมทางเพศ น้ำสะอาดและสุขาภิบาล พลังงานสะอาดและจ่ายได้ งานที่มีคุณค่าเศรษฐกิจที่เติบโต อุตสาหกรรม นวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน ลดความเหลื่อมล้ำ เมืองและชุมชนยั่งยืน และการผลิตและบริโภคที่รับผิดชอบ การรับมือกับ Climate Change นิเวศทางทะเลและมหาสมุทร ระบบนิเวศบนบก สันติภาพและสถาบันเข้มแข็ง และหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา รวมทั้งเรื่องหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” และหัวข้อ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กับการรายงานผลกระทบของมหาวิทยาลัย ตามกรอบ Times Higher Education” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชล บุนนาค ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) หัวข้อ “Mahidol University’s theory of Corporate Sustainability: Policy implications for MU sustainable development ” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุขสรรค์ กันตะบุตร รองคณบดีงานวิจัย และผู้อํานวยการศูนย์วิจัยภาวะผู้นําอย่างยั่งยืน วิทยาลัยการจัดการ และการนําเสนอ Workshop และสรุปการบรรยาย ทําแบบทดสอบ Post-Test โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายความยั่งยืน วิทยาลัยการจัดการ พร้อมทีมงานจากวิทยาลัยการจัดการ ร่วมดำเนินรายการตลอดทั้ง ๒ วัน

สำหรับการอบรมฯ ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายของสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยจากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ (From Vision to Action) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรสายสนับสนุนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างเครือข่ายกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดความยั่งยืนต่อส่วนรวม มหาวิทยาลัยและประเทศชาติ

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง“การเรียนรู้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs”

วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายเเพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเรียนรู้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs” โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ก้องเขต เหรียญสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร และรักษาการแทนหัวหน้าสำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวรายงานการอบรม ณ ห้องประชุม ๒๑๘ ชั้น ๒ อาคารสิริวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา ๒ วัน ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ จัดโดย สำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล บูรณาการร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการ กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม กองแผนงาน และกองทรัพยากรบุคคล สำนักงานอธิการบดี

จากนั้น เป็นการบรรยาย โดยทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ในหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่ หัวข้อ “Roles of Higher Educations for SDGs” โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อ “SDGs : นโยบายและแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล” โดย รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.จุฑามณี สุทธิสีสังข์ รองอธิการบดี และหัวข้อ “จากมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) สู่มหาวิทยาลัยยั่งยืน (Sustainable University)” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้บุคลากรสายสนับสนุน หรือผู้ที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของแต่ละส่วนงาน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals, SDGs) รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่าย และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดความยั่งยืนต่อส่วนงาน มหาวิทยาลัย และประเทศชาติต่อไป

ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายเเพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs เป็นสิ่งที่ประเทศไทยและสมาชิกองค์การสหประชาชาติ รวม ๑๙๓ ประเทศ ร่วมรับรองในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ จะเห็นว่าโครงการนี้ใช้เวลาดำเนินการ ทั้งสิ้น ๑๕ ปี เหลือระยะเวลาอีก ๘ ปีเท่านั้น องค์การสหประชาชาติ ได้ติดตามผลการดำเนินงานของแต่ละประเทศตลอดมา และในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ นี้ ประเทศไทยจะถูกจัดอันดับที่ ๔๔ ของโลกในการมุ่งสู่เป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมี ๑๗ ข้อ แบ่งเป็นกลุ่มตามปัจจัยที่เชื่อมโยงกัน ๕ มิติ หรือ 5P ได้แก่
๑. People การพัฒนาคน เพื่อขจัดปัญหาความยากจน ความหิวโหยและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
๒. Planet คือ การปกป้องและรักษา สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพภูมิอากาศเพื่อพลเมืองโลกรุ่นต่อไป ๓. Prosperity คือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และสอดคล้องกับธรรมชาติ
๔. Peace คือ สันติภาพและความยุติธรรม โดยยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีสังคม และสงบสุขไม่แบ่งแยก
๕. Partnership เป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน

ดังนั้น มหาวิทยาลัยมหิดล มีความหลากหลายทั้งองค์ความรู้ ที่จะสามารถนำมาบูรณาการ สามารถจัดเตรียมทักษะความรู้ และความเข้าใจให้แก่นักศึกษา เพื่อให้เป็นบัณฑิตที่มีปัญญา สามารถบริหารจัดการกับความท้าทาย และขยายโอกาสในการดำเนินการวิจัยที่ก้าวหน้าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”

ในส่วนกิจกรรมวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ มีการบรรยายในหัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ หัวข้อ “Mahidol University & Sustainable Development Goals” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีตนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อ “งานวิจัยจะช่วยให้มนุษย์และธรรมชาติดํารงอยู่อย่างสมดุลได้หรือไม่” โดย คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หัวข้อ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กับการรายงานผลกระทบของมหาวิทยาลัย ตามกรอบ Times Higher Education” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชล บุนนาค ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) หัวข้อ “Mahidol University’s theory of Corporate Sustainability: Policy implications for MU sustainable development “ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุขสรรค์ กันตะบุตร รองคณบดีงานวิจัย และผู้อํานวยการศูนย์วิจัยภาวะผู้นําอย่างยั่งยืน วิทยาลัยการจัดการ จากนั้น จะเป็นการนําเสนอ Workshop และสรุปการบรรยาย ทําแบบทดสอบ Post-Test โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายความยั่งยืน วิทยาลัยการจัดการ พร้อมทีมงานจากวิทยาลัยการจัดการ ร่วมดำเนินรายการ

มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายจัดอบรมหลักสูตรธุรกิจสุขภาพและการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 2 WELLNESS & HEALTHCARE BUSINESS OPPORTUNITY PROGRAM FOR EXECUTIVES (WHB)

วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “The Future of Thai Healthcare and Wellness Business During and Post Covid-19 crisis: Opportunities and Challenges” ในการอบรมหลักสูตรธุรกิจสุขภาพและการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ ๒ WELLNESS & HEALTHCARE BUSINESS OPPORTUNITY PROGRAM FOR EXECUTIVES (WHB) โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดโครงการอบรม พร้อมกล่าวปฐมกถา โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ก้องเขต เหรียญสุวรรณ รองอธิการฝ่ายบริหาร รองศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ และรองศาสตราจารย์ ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมการอบรม ณ ห้องประชุมสุขุมวิท ๑-๔ ชั้น ๓ JW Marriott Hotel Bangkok ถนนสุขุมวิท ซอย ๒ กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึง Health & Wellness คือ การรักษาสุขภาพให้ดี การอยู่ดีมีสุข การใช้ชีวิตให้มีศักยภาพสูงสุด คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และการตั้งเป้าในอนาคตให้ประเทศไทยเป็น ‘ผู้นำการแพทย์จีโนมิกส์’ ของอาเซียนใน ๕ ปี ข้างหน้า นอกจากนี้ ได้เน้นในเรื่องแนวทางการพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ ๔ ด้าน ได้แก่ ๑. Wellness Hub ที่เป็นการบริการอย่างครบวงจร ๒. Medical Service Hub ที่บูรณาการระบบการทำงานเพื่อสร้างสุขภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ต่อยอดกับระบบสปาซึ่งถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทยและเป็นจุดหนึ่งที่หลายประเทศเข้ามาใช้บริการ ๓.Academic Hub ที่เกี่ยวกับสุขภาพ และ ๔. Product Hub เพื่อสร้างความพร้อมให้ไทยมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ ในประชาคมอาเซียนยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขทั้งบุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการให้บริการอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

สำหรับการอบรมหลักสูตรธุรกิจสุขภาพและการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ ๒ จัดขึ้น ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล กับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข The Department of Community and Global Health, The University of Tokyo, Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. และ บริษัท Siam Health Development เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้อุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตของประเทศไทย รวมทั้งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ของโลก โดยมีเป้าประสงค์ให้ผู้บริหารและผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์ในประเทศไทย และผู้ที่สนใจธุรกิจด้านนี้ตระหนักถึงความก้าวหน้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์สมัยใหม่ รวมถึงเล็งเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Wellness & Healthcare ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 และเป็นการตอบสนองนโยบายที่สำคัญของมหาวิทยาลัยมหิดล ทางด้านการให้บริการวิชาการโดยเฉพาะทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศ

สภามหาวิทยาลัยมหิดล จัดบรรยายพิเศษ เรื่อง “นโยบายและทิศทางการบูรณาการงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”

วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับ ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในโอกาสมาบรรยายพิเศษ เรื่อง “นโยบายและทิศทางการบูรณาการงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ในที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ ๕๗๙ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์นที รักษ์พลเมือง ชั้น ๕ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ได้กล่าวถึง นโยบายการดำเนินงานของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล และการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทางด้านการศึกษาอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในระบบการเรียนการสอน และการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น การจัดสอบ GAT/PAT สำหรับเด็กนักเรียนที่มีอาการเล็กน้อย มีความเสี่ยงสูง หรือนักเรียนที่อยู่ระหว่างการรักษาอาการของโรคโควิด-19 ให้สามารถเข้าสอบได้ โดยความร่วมมือของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นในการเสริมจุดแข็ง การสร้างองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคต การพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ และการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับภาคอุตสาหกรรมในการผลิตกำลังคนระดับสูง ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การบูรณาการการเรียนรู้กับการทำงาน (Work-integrated Learning) การสร้างตลาด งานวิจัยที่ท้าทายสำหรับนักวิจัยที่มีศักยภาพ ทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย ของรัฐ และภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญด้านการวิจัย สร้างสรรค์นวัตกรรมของประเทศ

มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับบริษัท WHA Group เข้าประชุมหารือจัดตั้ง Centralized Warehouse เพื่อโรงพยาบาลศิริราช

วันที่ 5 เมษายน 2565 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมประชุมหารือการจัดตั้ง Centralized Warehouse เพื่อโรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช รองศาสตราจารย์ ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพรรณ กริชชาญชัย หัวหน้าศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ และ คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานร่วมกันสำหรับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งคลังกลางด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ ที่จะช่วยให้เกิดการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์และต้นทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านทางระบบออนไลน์

การจัดตั้ง Centralized Warehouse เพื่อโรงพยาบาลศิริราช ในครั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์มุ่งหวังจะให้เป็นหนึ่งในโครงการ Start Up ของมหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นต้นแบบของการจัดการด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพของโรงพยาบาลและองค์กรด้านสุขภาพในประเทศไทย แนวทางการจัดตั้งจะเป็นความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีความพร้อมด้านการบริการโลจิสติกส์ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1. ธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ (Logistic Hub)
2. ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development Hub)
3. ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power)
4. ธุรกิจให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Platform Hub)